วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2554

แคนาดาถอนตัว"พิธีสารเกียวโต"ประเทศแรก

แคนาดาถอนตัว"พิธีสารเกียวโต"ประเทศแรก
แคนาดากลายเป็นประเทศแรกที่ขอถอนตัวจากพิธีสารเกียวโตอย่างเป็นทางการในวัน จันทร์ โดยว่าข้อตกลงเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นี้กำลังเป็น อุปสรรคต่อการแก้ไขปัญหกาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ


     "เราขอใช้สิทธิทางกฏหมายของแคนาดาในการถอนตัวอย่างเป็นทางการ จากพิธีสารเกียวโต" ปีเตอร์ เคนท์ รัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมกล่าว หลังการประชุมอย่างมาราธอนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศในแอฟริกาใต้ ซึ่งประเทศผู้เจรจาตกลงกันได้สำเร็จเกี่ยวกับแผนโรดแมปฉบับใหม่ ที่จะครอบคลุมทั่วโลก

     ข้อตกลงสำคัญ ซึ่งบรรลุในปี 1997 นี้เป็นเพียงสนธิสัญญาระดับโลก ที่ว่าด้วยการตั้งเป้าหมายลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั่วโลก แต่กลับบังคับใช้กับประเทศร่ำรวย ซึ่งไม่รวมถึงสหรัฐฯ ที่ปฏิเสธให้สัตยาบันในข้อตกลงดังกล่าว

     เคนท์เสริมว่า พิธีสารเกียวโตนั้นไม่ใช่หนทางในการแก้ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงทั่วโลก แต่กลับเป็นอุปสรรคมากกว่า โดยเชื่อว่าข้อตกลงใหม่ ที่มีการบังคับใช้ทางกฏหมายกับประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่ๆ และยอมให้แคนาดาสามารถสร้างงาน และการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ จึงจะแสดงถึงวิธีการที่ก้าวไปข้างหน้า

     แคนาดาเคยทำข้อตกลงภายใต้พิธีสารโตเกียว เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลง 6.0% จากปี 1990 ภายในปี 2012 แต่การปล่อยก๊าซ ซึ่งเป็นต้นเหตุให้ระบบภูมิอากาศบนเปลือกโลกถูกทำลาย ดังกล่าวนั้น กลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

     ด้านรัฐบาลอนุรักษ์นิยมของนายกรัฐมนตรีสตีเฟน ฮาร์เปอร์ ได้เผยมาตรการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของตัวเองในปีที่่ผ่านมา เช่นเดียวกับความพยายามของสหรัฐฯ โดยชี้ว่า ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายของพิธีสารเกียวโต ตามที่มีการตกลงกันในสมัยรัฐบาลชุดก่อนหน้าได้

     การถอนตัวออกจากข้อตกลงแก้ไขปัญหาโลกร้อนฉบับนี้จะทำให้แคนาดา ไม่ต้องจ่ายเงินค่าปรับมูลค่าร่วม 14,000 ดอลลาร์แคนาดา หรือราว 423,000 ล้านบาท สำหรับการที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซได้

     ในวันอาทิตย์ ที่ผ่านมา ที่ประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ ณ เมืองเดอร์บัน ประเทศแอฟริกาใต้ สามารถตกลงกันได้สำเร็จเกี่ยวกับแผนโรดแมป ซึ่งจะนำไปสู่ข้อตกลงฉบับแรกที่จะบังคับชาติผู้สร้างมลพิษรายใหญ่ทั้งหมด ต้องลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ข้อมูลจาก :

แมวจรจัดขึ้นแท่นสัตว์เลี้ยงรวยอันดับ3ของโลกหลังรับ มรดก500ล.

แมวจรจัดขึ้นแท่นสัตว์เลี้ยงรวยอันดับ3ของโลกหลังรับ มรดก500ล.
แมวจรจัด กลับกลายเป็นเจ้าเหมียวมหาเศรษฐีในชั่วข้ามคืนและก้าวสู่บัลลังสัตว์เลี้ยง รวยสุดอันดับ 3 ของโลก หลังเจ้านายของมันเสียชีวิตด้วยวัย 94 ปีและทิ้งมรดกไว้ให้เกือบ 10 ล้านปอนด์(ราว 490 ล้านบาท)


     หนังสือพิมพ์เดลิเมล์รายงานว่ามาเรีย อัสซันตา สตรีชาวอิตาลีเสียชีวิตเมื่อเดือนที่แล้ว และจากการเปิดเผยของทนายความผู้รับผิดชอบทรัยพ์สินของเธอระบุว่าหญิงชราราย นี้ได้ทิ้งมรดกกองโตให้เจ้าตอมมาซิโน แมวจรจัดที่เธอพบและเก็บมาเลี้ยงเพราะว่ารักสัตว์เป็นชีวิตจิตใจ

     อัสซันตา มีบ้านและคฤหาสน์หลายหลังในอิตาลี ขณะเดียวกันยังมีเงินฝากในบัญชีและสะสมหุ้นไว้จำนวนมาก แต่ด้วยที่เธอไม่มีญาติสักคน เธอจึงตัดสินใจยกทรัพย์สินมหาศาลเหล่านี้ให้แก่เจ้าตอมมาซิโน

     อันนา โอเรคชิโอนี และจิอันซินโต คันโซนา สองทนายความตัวแทนของผู้เสียชีวิตระบุว่าอัสซันตา เขียนพินัยกรรมยกมรดกแก่เจ้าแมวเหมียวและส่งมันมายังสำนักงานของพวกเขาใน กรุงโรมเมื่อเดือนตุลาคม 2009 และการเสียชีวิตของอัสซันดา ส่งผลให้เจ้าตอมมาซิโน กลายเป็นสัตว์รวยที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก ขณะที่สัตว์เลี้ยงรวยที่สุดของโลกคือเจ้าเจ้ากันเตอร์ สุนัขจากเยอรมนี ที่ได้รับมรดกจากเจ้าของถึง 90 ล้านปอนด์

     ทนายความของผู้ตายอธิบายต่อว่าภายใต้กฎหมายอิตาลีเจ้าโทมาสซิโน จะไม่สิทธิ์ได้รับมรดกโดยตรง ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่รับผิดชอบของ สเตฟาเนีย พยาบาลส่วนตัวของ อัสซันดา ขณะเดียวกันในพินัยกรรมยังระบุขอให้บริจาคเงินบางส่วนให้องค์กรพิทักษ์สัตว์ ที่เหมาะสมด้วย

ข้อมูล จาก :

ผู้นำรัสเซียสั่งสอบทุจริตการเลือกตั้ง

ผู้นำรัสเซียสั่งสอบทุจริตการเลือกตั้ง
ผู้นำรัสเซีย สั่งตรวจสอบรายงานข้อกล่าวหาโกงการเลือกตั้ง จนทำให้สามารถมีคะแนนเสียงข้างมากในสภาล่างรัสเซีย หลัง ประชาชน ชุมนุมประท้วงให้มีการจัดเลือกตั้งใหม่


     ประธานาธิบดีดมิตรี เมดเวเดฟ ของรัสเซีย ได้สั่งการให้ทำการตรวจสอบรายงานข้อกล่าวหาที่ว่า พรรคยูไนเต็ด รัสเซียและนายกรัฐมนตรี วลาดิเมียร์ ปูติน โกงการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้มีคะแนนเสียงข้างมากในสภาล่าง จนทำให้มีประชาชนหลายหมื่นคน ได้ชุมนุมประท้วงในกรุงมอสโก และอีกหลายเมืองทั่วประเทศ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเครมลินจัดการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง

     ขณะที่ ผู้นำรัสเซีย ได้ออกมาออกมาแสดงความไม่พอใจ กลุ่มผู้ประท้วงด้วยการโพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กว่า ตนไม่เห็นด้วยต่อเสียงวิจารณ์ของกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ตนเองได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ ตรวจสอบข้อเท็จจริงของข้อมูลทั้งหมด จากหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ตามที่กฎหมายเลือกตั้งอนุญาตแล้ว

     ด้าน นักวิเคราะห์ เชื่อว่า การออกมาตอบโต้ของผู้นำรัสเซียครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ประธานาธิบดีดมิตรี เมดเวเดฟ กำลังตกอยู่ใต้ความกดดัน หลังจากที่ การประชุมครั้งนี้ส่อเค้าว่า จะรุนแรงมากขึ้น หลังจากสิ้นสุดเหตุการณ์ล่มสลายของสหภาพโซเวียต

ข้อมูลจาก :

วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

มติประชุมโลกร้อนทุกปท.อยู่ใต้กม.เดียวกัน

มติประชุมโลกร้อนทุกปท.อยู่ใต้กม.เดียวกัน
ที่ประชุมสภาพอากาศโลกของสหประชาชาติในแอฟริกาใต้ได้ข้อตกลงใหม่ ให้ทุกประเทศอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกัน


     194 ประเทศภาคี ด้านสภาพอากาศของสหประชาชาติ บรรลุความเห็นชอบให้จัดทำข้อตกลงใหม่ เพื่อให้ทุกประเทศตกอยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายฉบับเดียวกัน เรื่องการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน โดยหัวข้อนี้ มีการต่อสู้กันมาเป็นเวลานาน และหลายประเทศใหญ่ต่อต้านเพราะเสียประโยชน์ ดังนั้น การบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ จึงเหมือนการเปลี่ยนแนวทาง แต่ก็จะต้องเริ่มการเจรจาอีกนาน เพื่อจัดทำข้อตกลงระหว่างประเทศฉบับใหม่

ข้อมูลจาก :

เขมรเผยรอไทยแก้เอกสาร ส่งศาลโลก มี.ค.

เขมรเผยรอไทยแก้เอกสาร ส่งศาลโลก มี.ค.
รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา เผย อยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารเพื่อแก้รายงานของฝ่ายไทย โดยกำหนดส่งไปยังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในเดือน มี.ค. ปีหน้า


     สำนักข่าว พนมเปญโพสต์ รายงานว่า นายฮอร์ นำฮง รัฐมนตรีต่างประเทศกัมพูชา เปิดเผยเมื่อช่วงวันที่ 7 ธ.ค.ว่า กัมพูชา อยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารเพื่อแก้รายงานของฝ่ายไทย โดยกำหนดส่งไปยัง ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ในเดือนมีนาคม ปีหน้า

     ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ไทยได้ยื่นข้อสังเกตเป็นลายลักษณ์อักษร (Written Observations) อย่างเป็นทางการให้กับ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2554 มีเนื้อหาประมาณ 300 หน้า และภาคผนวกอีกประมาณ 600 หน้า

ข้อมูลจาก :

ชาวรัสเซียประท้วงค้านผลเลือกตั้ง

ชาวรัสเซียประท้วงค้านผลเลือกตั้ง
ชาวรัสเซียกว่า 5 หมื่นคนชุมนุมประท้วงผลการเลือกตั้งใหญ่ที่ผ่านมา โดยผู้ชุมนุมกล่าวว่าพรรคของนายปูตินโกงการเลือกตั้ง


ชาวรัสเซียกว่า 5 หมื่นคนออกมารวมตัวกันประท้วงกลางกรุงมอสโก เมืองหลวงของประเทศ เพื่อคัดค้านผลการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภาที่ผ่านมา และเรียกร้องให้มีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ ภายหลังมีกระแสข่าวว่าพรรคยูไนเต็ต รัสเซีย ของนายกรัฐมนตรีวลาดิมีร์ ปูติน โกงการเลือกตั้ง

การประท้วงเป็นไปอย่างสงบ โดยมีผู้ประท้วงเพียงไม่กี่รายที่ถูกจับกุม ขณะเดียวกันมีรายงานว่า การชุมนุมนั้นได้ลุกลามไปกว่า 70 เมือง ทั่วประเทศ

วลาดิเมีย ไรซ์คอฟ นักการเมืองฝ่ายค้าน ประกาศว่า จะมีการชุมนุมครั้งใหญ่อีกครั้งในวันที่ 24 ธ.ค.ซึ่งจะยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา

ขณะที่ นักวิเคราะห์มองว่า การชุมนุมเมื่อวันที่ 10 ธ.ค. ที่ผ่านมา เป็นการชุมนุมครั้งใหญ่สุดในรัสเซียนับตั้งแต่การล่มสลายของสหภาพโซเวียต

ทั้งนี้ ชาวรัสเซียจำนวนมากไม่พอใจกับผลการเลือกตั้งสภาที่ผ่านมา ซึ่งแม้ปูตินจะได้รับชัยชนะ แต่ก็ได้รับเสียงสนับสนุนน้อยลงอย่างมาก จนทำให้ต้องสูญเสียที่นั่งในสภาถึง 77 ที่นั่ง

นอกจากนี้ หลายฝ่ายยังรู้สึกเบื่อหน่ายกับบทบาทของปูตินทางการเมือง โดยได้มีการกดดันให้ปูตินยุติเส้นทางทางการเมืองอันยาวนานกว่า 18 ปี

ข้อมูลจาก :

พายุถล่มสกอตแลนด์ทำไฟดับกระทบปชช.5หมื่นหลังคาเรือน

พายุถล่มสกอตแลนด์ทำไฟดับกระทบปชช.5หมื่นหลังคาเรือน
วิศวกรในสกอตแลนด์เร่งมืออย่างหนักในความพยายามกู้คืนไฟฟ้าให้แก่ประชาชน เกือบ 50,000 หลังคาเรือน หลังพายุลูกใหญ่ก่อความเสียเป็นบริเวณกว้างและสร้างความโกลาหลด้านการเดิน ทาง


     พายุลมแรงที่มีความเร็วลม 265 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนี้ขุดรากถอนโคนต้นไม้ ทำรถยนต์หลายคันพลิกคว่ำและนอกจากนี้มันยังเป็ต้นตอให้กังหันลมอันหนึ่งไฟ ลุกระหว่างพายุลูกใหญ่ถาโถมเข้าใส่สหราชอาณาจักรในวันพฤหัสบดี(8) โดยมันนับเป็นพายุลูกแรกที่เข้าเล่นงานดินแดนแห่งนี้ในช่วงฤดูหนาวนี้อีก ด้วย

     รายงานระบุว่าอิทธิฤทธิ์ของมันเป็นผลให้เครื่องบินจำนวนมากตาม ท่าอากาศยานหลายแห่งต้องงดขึ้นบิน เหล่าผู้ขับขี่ที่ได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงถนนสายต่างๆที่มุ่งผ่านพื้นที่ ทางภาคกลางของสกอตแลนด์ ขณะที่ทางการรถไฟต้องลดจำนวนเที่ยวให้บริการลงและโรงเรียนหลายแห่งต้องปิด การเรียนการสอน

     วิศวกรกว่า 1,300 คน ที่หลายรายถูกเกณฑ์มาจากทั่วสารทิศของสหราชอาณาจักร กำลังพยายามอย่างหนักในการกู้คืนไฟฟ้าแก่บ้านเรือนราษฎรทั่วสกอตแลนด์ จากการเปิดเผยของนายนิโคลา เตอร์เจียน รองรัฐมนตรีคนที่ 1 ของสกอตแลนด์ ขณะที่โฆษกบริษัทสกอตติช ไฮโดรบอกกับเอเอฟพีว่ามีลูกค้าราว 48,000 หลังคาเรือนที่ยังอยุ่โดยปราศจากไฟฟ้าใช้ ลดลงจากก่อนหน้านี้ 70,000 หลังคาเรือน

     ด้านนายอเล็กซ์ ซัลมอนด์ รัฐมนตรีคนที่ 1 ยกย่องเจ้าหน้าที่สถานการณ์ฉุกเฉินที่ขานรับต่อภัยพายุร้ายนี้อย่างรวดเร็ว "สกอตแลนด์เป็นดินแดนที่กว้างขวาง แต่น้อยครั้งนักที่เราจะเจอกับสถานการณ์แบบนี้" เขากล่าวระหว่างเยือนฮ่องกง

ข้อมูลจาก :

เพลิงไหม้รพ.ในอินเดียตายเพิ่ม 89 คน

เพลิงไหม้รพ.ในอินเดียตายเพิ่ม 89 คน
ความคืบหน้าเหตุเพลิงไหม้โรงพยาบาลในเมืองกัลกัตตา รัฐเบงกอลตะวันตก ของอินเดีย ล่าสุดจำนวนผู้เสียชีวิตได้เพิ่มขึ้นเป็น 89 คนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนไข้ ที่ขาดอากาศหายใจ


     นายมามาตา บาเนอร์จี มุขมนตรีรัฐเบงกอลตะวันตก กล่าวว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์เพลิงไหม้โรงพยาบาลในเมืองกัลกัตตา ล่าสุดได้เพิ่มเป็น 89 คนแล้ว ส่วนใหญ่เป็นคนไข้ของโรงพยาบาลซึ่งเสียชีวิตจากการขาดอากาศหายใจ ส่วนเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก นายบาเนอร์จี กล่าวโทษว่า เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลต่างหนีเอาตัวรอด ไม่ยอมช่วยเหลือคนป่วยหลังจากที่เกิดเพลิงไหม้ขึ้น ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ก็ระบุว่ากว่าที่รถดับเพลิงจะมาถึงไฟก็ลุกไหม้ไป แล้วกว่า 1 ชั่วโมง สำหรับต้นเพลิงเกิดขึ้นที่บริเวณชั้นใต้ดินซึ่งเป็นที่เก็บถังออกซิเจนจำนวน มาก ซึ่งตำรวจเชื่อว่าน่าจะเป็นสาเหตุของเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้น

ข้อมูลจาก :